Pages

23 มิ.ย. 2558

การเลือกซื้อกีต้าร์ และบทเรียนมีราคาที่ผมได้รับ

ผมส่วนใหญ่เล่นกีต้าร์ในแนว fingerstyle แต่ว่าตีคอร์ด (strum) เป็นบางครั้ง

ถ้าไปดูตามเว็บ pantip แนะนำกีต้าร์สำหรับงบ 5000 ส่วนใหญ่ก็จะเป็น Walden d550, g550 หรือไม่ก็เป็น Yamaha F310 ไปเลย

แต่ว่าผมคิดมาก อยากได้กีต้าร์คอเว้า มี cutaway ทำให้เลือกยากขึ้น


ถ้าไม่อยากเลือกกีต้าร์แค่ตามยี่ห้อ แค่ตามรุ่นที่เขาแนะนำ ผมมีคำแนะนำดังนี้
  1. ไม่ต้องสนใจว่าคอจะเว้าหรือไม่เว้า cutaway หรือไม่ cutaway ผมรู้สึกไม่ค่อยมีผลต่อเสียง
  2. ที่ต้องสนใจให้มากต่างหากคือ รูปทรงกีต้าร์ ว่าเป็นทรง dreadnought, GA, GC, OM หรือ Jumbo ซึ่งมีผลต่อเสียงมากๆ การที่จะรู้ว่ากีต้าร์เป็นรูปทรงอะไร ดีที่สุดคือพิมพ์ชื่อรุ่นของกีต้าร์ที่เห็นในร้าน แล้วก็ search ใน google
    • Dreadnought เป็นทรงของกีต้าร์ที่ไม่แพงนักส่วนใหญ่ เล่นเพลงได้ทุกแนว นิยมมากที่สุด เสียงเบสกับเสียงแหลมพอๆกัน
    • GA, GC, OM หรือ NEX จะเหมาะกับการเล่น fingerstyle เสียงแหลมๆมากกว่า
    • Jumbo เสียงจะทุ้มมากกว่า เหมาะกับการตีคอร์ด หรือเล่นเสียงทางเบสเยอะๆ
    • มีรูปทรงมากกว่านี้อีก เช่น parlor, mini อิ่นๆ แต่ผมไม่ข้อมูล ไม่ได้ลองเล่นดู
  3. อย่างต่อไปที่ต้องสนใจ คือ ชนิดของไม้ ซึ่งสิ่งที่มีผลต่อชนิดของไม้ คือ ยี่ห้อ และการโฆษณาของทางบริษัท จะรู้ว่าชอบแบบไหน ให้ลองฟังเสียงใน youtube ลองฟังเพลงตัวอย่างที่ใช้กีต้าร์รุ่นนี้เล่น ให้พนักงานที่ร้านเล่นให้ฟัง หรือลองเล่นเองในร้าน
  4. อีกอย่างหนึ่งที่ควรสนใจ (แต่จริงๆก็ไม่จำเป็นมากหรอก) คือ ทำด้วยไม้แบบใด เกรดใด ส่วนใหญ่ก็จะดูว่า all laminated, top solid หรือ full solid ซึ่งก็มักจะเพิ่มราคาตามคุณภาพไม้
    • All laminated ถูกที่สุด ทนต่อสภาพอากาศมากที่สุด
    • Top solid ราคากลางๆ
    • All solid ราคาแพงมาก อาจจะต้องเก็บในกล่องแข็ง มีที่ดูดความชื้น แต่เสียงจะก้องกังวานมากที่สุด
  5. Cutaway ก็คือ มีคอเว้าเข้าไป ทำให้แตะ fret ไกลๆได้ดีขึ้น ผมคิดว่าไม่ได้มีผลต่อเสียงมากมาย แต่จะมีผลต่อการเล่น solo บางเพลง เช่นเพลง "สองใจ" (มีถึง fret 18)
  6. ตั้งงบก่อนซื้อกีต้าร์
    • All laminated อาจซื้อได้ในราคาไม่ถึง 5000 ถ้าไม่มียี่ห้อมากนัก หากมียี่ห้อหน่อย ก็มักจะราคาไม่ถึง 10000 แต่บางยี่ห้อ เช่น Yamaha ราคาอาจจะถึง 20000
    • Top solid ราคาเริ่มต้น 6000-7000 ยี่ห้อ Walden, Veelah, Tyma ยี่ห้อดังขึ้นหน่อย ราคาเริ่มต้นราว 10000-15000 ส่วน Yamaha อาจจะเริ่มราว 25000
    • All solid ราคาเริ่มต้นน่าจะ 40000-50000 ขึ้นไป
  7. ตรวจสอบกีต้าร์ก่อนออกจากร้าน
    • ดูคอกีต้าร์ว่าคดหรือไม่
    • ลูกบิดแข็งแรงหรือไม่
    • ลองเล่นจริง

Yamaha F310

Yamaha FS100c

กีต้าร์ที่ผมเลือกซื้อ ตัวแรกที่มีคือ Yamaha FS100c ราคาราว 5000 บาท เล่นดีพอสมควร แต่ผมรู้สึกรุ่นยอดนิยมอย่าง F310 เสียงดีกว่าหน่อย คงเป็นเพราะเสียงเบสของ F310 เสียงดังกว่า (แต่ FS100c ทรงสวยกว่านะ เพราะมี cutaway + คอเว้า)


Veelah V1-OMCE, V1-DCE

ต่อมา ผมจะหากีต้าร์ตัวหนึ่งไว้ที่เมืองอุบล อีกตัวหนึ่งไว้ที่บ้านที่กรุงเทพๆ
ได้ Veelah V1-OMCE มา ราคาราว 7000 บาท เป็นทรง OM, top solid, มี cutaway
ผมออกจากร้าน ไปลองเล่นเองได้ 2 ชั่วโมง ขอเปลี่ยนเลยครับ เพราะว่าเสียงแหลมๆดีจริง ดังชัดเจน แต่ด้านเสียงเบสห่วยมาก เล่น fingerstyle + ตีคอร์ดแล้วไม่เพราะ



Yamaha CPX500ii

ที่ร้านยอมให้เปลี่ยนครับ ไม่ได้ตัดราคา แต่ทางร้านส่วนใหญ่มีให้เลือกแต่ Yamaha เลยได้ Yamaha CPX500ii เป็นทรง Jumbo, all laminated, cutaway เป็นทรง Jumbo แต่คอเว้า มีคอคอด จริงๆเสียงด้านเบสดังชัดเจนมากครับ แต่เสียงด้านเสียงแหลมค่อนข้างแห้ง จึงเหมาะกับการตีคอร์ด แล้วก็เล่นทางเบสเยอะๆมากกว่า ไม่ชอบเลยเอาไปขายต่อ

ไปลองกีต้าร์ตัวใหม่ที่อีกร้านหนึ่ง เขาแนะนำทรง OM ราคาราว 12000 เป็นยี่ห้อ Takamine กับ Crafter ผมชอบ Crafter มากกว่า Takamine ครับ แต่ว่ายังขาย Yamaha CPX500ii ไม่ออก กลัวเสียตังเยอะ ไม่ค่อยมีเงินเหลือ เลยซื้อ Veelah V1-DCE มา ราคาราว 6000

Veelah V1-DCE นี่เป็นทรง Dreadnought ครับ คอไม่ค่อยเว้า แต่มี cutaway เป็น top solid เสียงดีครับ แต่รู้สึกเสียงด้อยลงเล็กน้อยเมื่อหนีบ capo ที่ fret สูงๆ เช่นที่ fret 4,5

หลังจากที่ได้ลองกีต้าร์อย่างจริงจังมา 6 ตัว ทำให้เรียนรู้ว่า
  1. ไม่จำเป็นต้องเลือกกีต้าร์ที่คอเว้า (หมายถึง คอคอดเข้าเยอะๆตรงกลาง) แต่สิ่งสำคัญคือชื่อรูปทรง ว่าเป็น dreadnought, OM หรือ Jumbo
  2. เทียบ Veelah V1-OMCE กับ V1-DCE ทำให้รู้ว่า OM เสียงสูงๆแหลมๆจะดังชัดเจนกว่า แต่เสียงเบสจะห่วยลง
  3. เทียบ Veelah V1-OMCE กับ Crafter, Takamine ทำให้รู้ได้ว่า ทรง OM ก็เล่นเพลง finger เพราะได้ ตีคอร์ดเพราะได้ ถ้าราคาแพงพอ (มากกว่า 10000 บาท)
  4. Yamaha CPX500ii หรือทรง Jumbo สามารถเล่น fingerstyle เพราะว่าในบางเพลง แต่ตีคอร์ดได้หนักแน่นกว่า
  5. แต่ละร้านตั้งราคากีต้าร์ไม่เท่ากัน และอาจจะถูกกว่าในเว็บ
  6. Veelah V1-DCE เสียงดีมากครับ เหมาะกับการเล่น fingerstyle อยู่ แต่ถ้าหนีบ fret 4 แบบเพลงสองใจ (ผมตั้งสายลดลงครึ่งเสียงครับ) เสียงจะดูเบาลงทันที เสียงหวานดีครับ ค่อนๆไปทางแบบ classical guitar
ท้ายสุดนี้ ขอประกาศขายกีต้าร์ Yamaha CPX500ii หน้าตาสวยมากครับ ตีคอร์ดเพราะ เสียงหนักแน่น คอเว้ามาก มี cutaway ใช้มาแค่ 2 วัน ตั้งราคาไว้ที่ 11000 ต่อราคาได้ ติดต่อได้ทาง email กีต้าร์ตัวจริงตั้งโชว์อยู่ที่ร้าน P.S.Music จังหวัดอุบลราชธานี ครับ แถมกระเป่าด้วยครับ

 

--------
Update 30/8/58
  • ตอนนี้ Yamaha CPX500ii ยังประกาศขายอยู่ครับ สีสวยมาก บางคนเล่นแล้วอยากจะชอบเสียง
  • Veelah V1-DCE เสียงดีมากครับ เล่น fret สูงๆแล้วเสียงเบาลงอย่างที่ว่า เล่น fingerstyle เพราะมาก เล่นแล้วอยากเล่นอีก อยากจับ ไม้ก็สวย แนะนำให้หาซื้อ ถ้าชอบกีต้าร์ ราคาแค่ 5000 กว่า
  • ได้ Crafter GAE-8 มือสองมาครับ ราคามือหนึ่งอยู่ 12,900 เสียงดีครับ แต่เสียง fingerstyle ดีไม่เท่า Veelah ความชอบส่วนตัวครับ
  • เทียบเสียง Veelah V1-DCE, Crafter GAE-8 กับ Yamaha FS100c แล้ว Yamaha เสียงดีน้อยกว่าครับ แต่มีเสียงแบบแข็งๆบางๆใน style ของ Yamaha
  • Veeelah bend เสียง หรือดันสาย ง่ายกว่า Yamaha ครับ

18 มิ.ย. 2558

เทคนิคการจด lecture ด้วยแผนภาพ จดเสร็จแล้วโยนทิ้งได้

ผมได้ไอเดียนี้มาจากการที่ว่า การจำ lecture ที่ดี เพื่อการสอบ ควรตั้งใจฟัง Eran Katz กล่าวไว้ว่า วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ผมรู้จัก คือ ตั้งใจฟัง lecture ไม่ต้องจด แต่ควรใช้เทปบันทึกเสียง แล้วก็ให้เพื่อนซักคนในกลุ่มถอดความจากเสียงเป็นตัวหนังสือ พิมพ์ออกมาให้ได้อ่านแล้วก็จดจำกัน

ผมขอต่อยอดจาดตรงนั้นครับ คือ ผมจะนั่งฟัง lecture อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ไม่นั่งหลับ จับประเด็นได้

ผมได้ไอเดียว่าเราอาจจดเป็นแผนภาพ กระตุ้นในสมองเห็นภาพความเชื่อมโยง จากการที่เราสามารถวาดแผนภาพไป พูดไป ในขณะที่เรานำเสนอความรู้ สอนหนังสือ ขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์
เป็นแค่ไอเดียครับ ว่าการเขียนก็เป็นการตั้งใจฟังได้ ผมเองก็คงต้องฝึกอีกที

เรื่องการ present หรือการจดบันทึกยังมีอีก concept หนึ่งครับ คือ ถ้ามีสไลด์สำเร็จรูป/มี handout เราจำเป็นต้องพูดบรรยายได้ครับ ไม่ว่าจะเริ่มจากสไลด์ไหน

ถ้าเราเป็นคนสไลด์เอง โดยเฉพาะเป็นการ present งานวิจัยหรือตัวอย่างผู้ป่วย ก็มีจะความสำคัญที่เนื้อหาจะต้องพิมพ์ลงไปใน slide ให้ครบด้วยครับ